เกล็ดความรู้ Camping

กิจกรรมดูผีเสื้อ (Butterflies Watching)


กิจกรรมดูผีเสื้อ (Butterflies Watching) ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา มีผีเสื้อหลากหลายชนิด รวมแล้วก็ประมาณ 400 ชนิด ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองผีเสื้อแห่งป่าตะวันออก จะมีผีเสื้อมากในระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม ของทุกปี สามารถดูได้ที่จุดดูผีเสื้อห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 1 กิโลเมตร ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่มีฝนตกชุกอาจพบเห็นผีเสื้อได้น้อยทั้งนี้การพบเห็น ผีเสื้อขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากเป็นวันที่มีอากาศโปร่งอาจพบเห็นผีเสื้อได้เป็นจำนวนมาก
 
กิจกรรมดูผีเสื้อ ก็เป็นกิจกรรมดีๆ ที่นักเดินทาง สามารถที่จะแวะเวียนไปได้ในช่วงเดือนนี้ได้

=============================================


การเลือกซื้อเต้นท์ 


...หัวข้อนี้ผมอยากนำเสนอเกี่ยวกับการเลือกซื้อเต้นท์สำหรับมือใหม่เพื่อใช้ออกทริปแค้มป์ปิ้งกันจริงๆ ไม่ใช้เพียงเพื่อสำหรับอวดชาวบ้านได้อย่างเดียว หรือไม่ใช่กรณีพรุ่งนี้เพื่อนชวนออกทริปเดี๋ยวแว๊ะซื้อเต้นก่อน แต่พอเอาเข้าจริงก็ต้องรบกวนคนโน้นคนนี้...ทำไงดี อย่างนี้เดี๋ยวจะเสียฟอร์มนะครับ  
...พูดถึงเต้นท์ปัจจุบันนี้มีให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ทั้งของนอก ของไทย หลายราคาแล้วแต่รูปแบบและออปชั่นต่างๆ อีกอย่างเต้นท์ของไทยในปัจจุบันคุณภาพดีๆก็มีเยอะนะ คนที่บอกซื้อของนอกถ้าไม่รู้จริงล่ะก็ระวังล่ะ...ผลิตในเมืองไทยนี่แหล่ะ
...การเลือกเต้นท์ก่อนอื่นข้อสำคัญอันดับแรก ต้องพิจารณาตัว เราเองก่อนว่า ธรรมดาเราออกแค้มป์ปิ้งแต่ล่ะครั้งส่วนใหญ่ต้องนอนกันกี่คน ไม่ใช่เล่นซื้อไปซะใหญ่แต่ไม่มีใครนอนด้วยจะกางแต่ล่ะครั้งก็ลำบาก ก็แย่เหมือนกัน
...เต้นท์ส่วนใหญ่จะออกแบบมาสำหรับ 2-3 คน , 3-4 คน และ ขนาดมากกว่า 4 คนขึ้นไป ส่วนขนาด ความกว้าง x ยาว นั้นส่วนใหญ่ก็ไล่เลี่ยกัน <ยังไงถ้าดูหลายๆอันนี่ กว้างกว่าก็ดีนะครับ> ในการเลือกขนาดควรเลือกเผื่อสักหน่อย เพราะไอ้ที่บอกขนาด 2-3 คนนี่เอาเข้าจริงก็ได้แค่ 2 คนเท่านั้นแหล่ะ ถ้านอน 3 เมื่อไหร่ล่ะก็อัดกันน่าดู



...เรื่องของผ้า อันนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะถ้าผ้าไม่ดีนี่ ไม่ต้องรอให้ฝนตกหรอกครับ เจอแค่นํ้าค้างก็หัวเปียกแล้วล่ะ เนื้อผ้าของผนังเต้นท์ที่ดีและเหมาะกับอากาศเมืองไทย ควรเป็นผ้าที่มีการระบายอากาศได้ดี ส่วนใหญ่จะเป็นพวกผ้า
ไนลอนเบอร์ 190T หรือ 190T Ripstop เนื้อผ้าพวกนี้จะเป็นลักษณะตาข่ายให้การไหลของอากาศได้ดี ส่วนผ้ากันฝนหรือ Fly-Sheet นั้นควรเป็นผ้าที่มีการเคลือบนํ้ายา PU ตั้งแต่ประมาณ 400-2000 mm จึงสามารถกันนํ้าฝนได้ ผ้าที่ดีควรมีเนื้อผ้าที่เรียบและละเอียด จะสามารถกันนํ้าค้างได้ดี และบางยี่ห้อจะเป็นผ้าที่มีการเคลือบนํ้ายาอย่างดีซึ่งดูง่ายๆจะมีการเขียน ติดโฆษณามาด้วย เช่นกันนํ้าได้ 100% อันนี้ก็จะดีกว่าแต่ราคาก็สูงหน่อย แต่นั้นแหล่ะถ้าโดนฝนหนักเข้าจริงๆก็ได้แค่ประมาณ 80%พอจะได้ แต่ก็ยังดีกว่าผ้าธรรมดาเป็นแน่ อีกอย่างคือ พื้นเต้นท์ เต้นท์ราคาถูกทั่วไปมักใช้เป็นผ้าชนิด PP หรือผ้าคล้ายกระสอบถุงปุ๋ย ส่วนเต้นท์ราคาแพงขึ้นมาก็จะใช้เป็น PE Woven ที่มีการเคลือบ PU กันนํ้า
...แต่การที่จะไปเลือกซื้อและลองคุณภาพกันเห็นๆนี่หาได้ยากครับ ที่เห็นก็มีแต่มาศึกษาและเสี่ยงซื้อมาแล้วก็ลองทดสอบ กัน ทั้งนั้น <ยกเว้นสนิทกันเจ้าของร้านนั้นแหล่ะ>วิธีการที่ผมเคยลองก็คือ ขึงผ้าให้ตึงแล้วเอาพัดลมเป่าดู หรือ เทนํ้าใส่แล้วยกขึ้นดูซักพักดูระยะเวลาการซึมของนํ้า แต่ก็เป็นวิธีการส่วนตัวนะครับ ไอ้เรื่องจะไม่ให้มีนํ้าหยดในเต้นเลยนี่ยากพอดูครับ เพราะเมื่อเรากางเต้นในอากาศที่หนาว ถึงเต้นท์ดีขนาดไหนก็มีหยดนํ้าเกาะด้านในครับ เพราะอากาศด้านนอกผ้าที่เย็น กว่าด้านในที่เกิดจากอุณหภูมิร่างกายจะทำให้เกิดการจับตัวของไอนํ้าด้านที่ มีอุณหภูมิสูงกว่า ลักษณะเดียวกับแก้วใส่นํ้าแข็ง หรือการเกิดฝ้าที่กระจกรถไงครับ แต่ในเต้นท์ราคาแพงๆก็มีครับ สามารถขจัดปัญหาหยดนํ้าเกาะด้านในได้โดยใช้ผ้าประเภท Gore-TEX ซึ่งผิวด้านนอกสามารถกันนํ้าได้ดี แต่ด้านในสามารถยอมให้อากาศถ่ายเทออกไปได้ และยังสามารถช่วยในการกลั่นตัวของไอนํ้าอีกด้วย
...ตะเข็บ ของเต้นท์ก็เป็นอีกอย่าที่ควรคำนึงถึงและควรตรวจตราให้ละเอียดก่อนซื้อ ต้องเลือกที่เย็บได้ดี แข็งแรง ราบเรียบสมํ่าเสมอตลอดเส้น ไม่งั้นตรงนี้แหล่ะครับจะทําให้เต้นท์ไม่แข็งแรง ฉีกขาดง่าย และนํ้าเล็ดลอดได้อย่างดี ในเต้นท์ราคาแพงขึ้นหน่อยก็จะมีการเคลือบตะเข็บเต้นท์ให้ด้วย ซึ่งเรียกว่า Seamseal ยังไงก็ลองสอบถามคนขายเขาดูนะครับ 
...รูปแบบเต้นท์ อันนี้แหล่ะเวลาไปออกทริปกันเป็นกลุ่มหลายๆคน รูปแบบและสีสันของเต้นท์จะเป็นแฟร์ชั่นที่ใช้สำหรับโชว์ออฟเพื่อนฝูงกันได้ ดีเป็นบทเริ่มต้น..ฮ่าๆ แต่ที่จะพูดถึงนี่คงพูดถึงรูปแบบหลักที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน
... เต้นท์แบบสามเหลี่ยม สมัยเก่าซึ่งข้อดีก็คือหาซื้อง่ายราคาค่อนข้างถูก และแข็งแรงส่วนข้อเสียนี่ก็อย่างว่าครับ กางยากรวมทั้งการหาพื้นที่ในการกางก็ยากเพราะมีสมอบกเยอะ ผมเองยังเคยเลยกางเกือบเสร็จอยู่แล้วต้องย้ายที่กางใหม่เพราะดินอีกด้านนึง เป็นหิน ตอกไม่ลง หลายๆครั้งเข้าสมอบกก็งอหลังๆพองอเข้าหลายตัวก็เริ่มตอกไม่ลง...ส่วนวิธีกาง นี่ บางครั้งเวลาผมไปแค้มป์ปิ้ง กับเพื่อนฝูง ที่ที่มีนักท่องเที่ยวกางเต้นท์กันเยอะๆ เห็นบางคนเง๊อะๆง๊ะ..ไม่รู้จะจะเริ่มตรงไหนก่อนดี เพราะสงสัยกางมา 10 ครั้ง เริ่มต้นไม่เหมือนกันสักที หรือบางคนกางเสร็จแล้วเต้นท์ไม่ยอมตึง หลังคาห้อย...ไอ้เราก็อยากเข้าไปช่วย ก็กลัวเค๊าเสียฟอร์ม ยิ่งมีสาวๆมาด้วยนี่ไม่ได้เลย..ฮ่าๆ
...วิธีกาง เต้นทแบบ์สามเหลี่ยมให้ดูดี ก็เริ่มตั้งแต่ หาทำเลที่ดีๆเรียบๆ กางผืนเต้นท์ออกจัดวางให้เรียบร้อย แล้วลอง เดินเอาสมอบก ลองปักๆ ทิ่มๆดินบริเวณรอบเต้นท์ที่จะตอกดูก่อนว่าพอจะตอกได้หรือปล่าว หลังจากนั้นก็ใช้สมอบก ตอกยึดหูพื้นเต้นท์ทั้ง 4 ด้านให้แน่นก่อน แล้วจึงขึ้นเสาด้านใดด้านหนึ่ง ยั้งงี้รับรองคนเดียวทำได้โดยเสาเต้นท์ไม่มีล้ม แล้วจึงดึงเสาอีกด้านึงขึ้น ดึงให้หลังคาตึงเลยนะครับ อันดับต่อไปให้ดึงยึดหูกลางเต้นทั้ง 2 ด้านซ้ายขวา แล้วจึงตอกยึด หูมุมทั้ง 4 ด้านเป็นขั้นตอนสุดท้าย อันนี้แนะนําให้ประมาณมุมเชือกให้ได้ประมาณ 45 ํ ครับเพราะมันจะช่วยรั้ง ด้าน หัว และ ด้านข้างได้เท่าๆกัน...เท่านี้รับรอง...ตึง ไม่มีปัญหาเรื่องกระพือหรือนํ้าค้างไหลให้กวนใจ



=================================================















































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น