ขับรถ-ไปกางเต็นท์ ภูทับเบิก เพชรบูรณ์

ขับรถ-ไปกางเต็นท์ ภูทับเบิก เพชรบูรณ์


การเดินทางไปแค้มปิ้งครั้งนี้ใช้ Optra CNG เป็นยานพาหนะที่จะพาเราขึ้นสู่ยอด "ภูทับเบิก" เริ่มออกเดินทางจากสระบุรี ไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 1 แวะเติม NGV กันที่อำเภอพระพุทธบาท




ก่อนที่จะเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ซึ่งเป็นถนนสายหลักในการที่จะเดินทางสู่จังหวัดเพชรบูรณ์ ผ่านอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ผ่านอำเภอหล่มสัก เข้าสู่อำเภอหล่มเก่า แวะหาซื้ออารรยากาศกันซักหน่อย วนอยู่ในตลาดอยู่พักใหญ่ก็มาเจอกับร้านหมูกระทะ โอ... สุดยอด




ออกจากอำเภอหล่มเก่ามาก็มีป้ายบอกทางตลอดเป็นระยะ รับรองไม่มีหลง และแล้วก็มาถึงทางขึ้นกันแล้ว จุดเริ่มต้นของการไต่เขาของพวกเรา ระยะทางขึ้นเขาวกไปวนมาก็ไม่ถึงกับยาวมาก 24 กิโลเมตร






ถึงแล้วจุดกางเต้นท์บนยอดภูทับเบิก ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จัก "ภูทับเบิก" กันก่อนดีกว่า

ข้อมูลคร่าวๆ ของภูทับเบิก : ทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ภูทับเบิกมีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,768 เมตร นับเป็นจุดที่สูงที่สุดของจังหวุดเพชรบูรณ์ สร้างความตื่นตาตื่นใจกับผู้ที่ไปเยือนได้เป็นอย่างมาก จนกลายเป็น 1 ใน UNSEEN THAILAND ด้วยภูมิประเทศที่สวยงาม ธรรมาชาติแบบทะเล ภูเขาอากาศบริสุทธิ์ และเย็นสบายตลอดปี เนื่องจากร่องลมเย็นจากเทือกเขาหิมาลัยและอยู่บนที่สูง จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล ในตอนเช้าจะมองเห็นกลุ่มเมฆ และทะเลหมอกตัดกับเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ภูทับเบิกยังเป็นสถาที่ที่สำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์ คือ เป็นจุดที่ใช้รับน้ำฟ้ากลางหาว (เมื่อวันที่ 9 กัยยายน 2542) เพื่อนำไปร่วมเป็นน้ำเพชรน้อมเกล้า ถวายเป็นน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในพิธีพระราชมงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542


รู้จักกับสถานที่แห่งนี้กันแล้วก็อย่ารีรอ หาที่เหมาะๆ ขนสัมภาระลงจากรถ และจัดการกางเต็นท์ให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยนั่งชมบรรยากาศปล่อยอารมณ์ชิลชิลไป ปล่อยเวลาให้เดินไปอย่างช้าๆ สงบ ปลอดโปร่ง




เอ้า... รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่ท้องมันเรียกร้องอาหารละสิ หิวแล้ว เริ่มเลยแล้วกันหมูกระทะที่เตรียมมา




นั่งล้อมวงคุยสาระทุกข์สุกดิบกันทั้งเรื่องของตัวเอง (และก็เรื่องของคนอื่น)




เช้าอีกวันตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น สดใสของแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมายังทุ่งกะหล่ำ ผลผลิตทางการเกษตรที่ขึ้นชื่อของภูทับเบิกเขาแหละ ใครมาภูทับเบิกแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับไร่กะหล่ำละก็ถือว่ามาไม่ถึง










แต่เรามีเวลาถ่ายรูปเพียงไม่นาน เจ้าหมอกไม่รู้มาจากไหนนักหนา มันถาโถมเข้ามารุมล้อมพวกเราจนแทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย









ท่ามกลางสายหมอกที่มาโอบล้อมพวกเราทำให้มีความรู้สึกสดชื่น และถ้าเราปล่อยใจไปตามสายหมอก พลังที่เราสูญเสียไปกับการทำงานที่ผ่านมา มันกลับคืนมาเต็มเปี่ยมได้เลย





====================================================

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น