ห่างหายจากการกางเต้นท์มานาน...ช่วงนี้เที่ยวรีสอร์ทไปก่อน

ห่างหายจากการกางเต้นท์มานาน...ช่วงนี้เที่ยวรีสอร์ทไปก่อน
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มีเวลาจัดทริปแค้มปิ้ง กางเต้นท์ ตามแนววิถีที่เราปารถนา แต่ก็ยังมีโอกาสได้ออกทริปอยู่เรื่อยๆ
วันนี้เลยจะมาเล่าแผนการเที่ยวแบบ รีสอร์ท แต่ยังคงกลิ่นไอธรรมชาติตามที่เราเคยชิน

ทริป ล่องใต้ ระนอง-ชุมพร-ประจวบคีรีขันธ์ 10 - 14 ตุลาคม 2562

วันที่ 10 ตุลาคม 2562 เริ่มต้นจาก กทม. นัดหมายกับสมาชิกประมาณ 3 ทุ่ม ย่านบางบัวทอง ขับเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมง น่าจะถึงตัวเมืองระนองประมาณ ตีห้า นอพักซักชั่วโมงนึงค่อยออกร่อน


หาอาหารเช้าที่เป็น Signature ของจังหวัดระนอง หาที่เที่ยวละแวกนั้น ชมความงดงามของทะเลอันดามัน ก่อนจะเข้าที่พักที่จองไว้ TON PHET GREENERY GARDEN ซึ่งเป็นรีสอร์ทที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ บ้านพักแต่ละหลังซ่อนอยู่ท่ามกลางมวลหมู่ต้นไม้


Credit ภาพสวยๆ https://pantip.com/topic/38536661

วันที่ 12 ออกจากที่พัก TON PHET GREENERY GARDEN มุ่งหน้าสู่จังหวัดชุมพร โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 4006 เข้าสู่ฝั่งอ่าวไทย เข้าสู่ที่พักของคืนนี้บนเกาะพิทักษ์ โดยเราจองไว้ที่บ้านสบาย สบาย โฮมสเตย์ ซึ่งเราจะได้สัมผัสประสบการณ์เล็กๆ ของเด็กๆ ในการนั่งเรือข้ามไปยังเกาะ


ที่พักเของเราคืนนี้เป็นโฮมสเตย์ เราจะได้ทานอาหารทะเล ทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา กันให้เต็มที่ รวมทั้งอาจจะมีโอกาสได้ออกไปตกหมึกกัน


Credit ภาพบรรยากาศบนเกาะพิทักษ์ https://www.youtube.com/watch?v=5WKMQFeSUdI

เราพักบนเกาะพิทักษ์ 1 คืน คืนวันที่ 13 ตุลาคม 2562 เราต้องเปลี่ยนที่พักที่ให้ใกล้ กทม. มากที่สุด เนื่องจากวันที่ 14 ตุลาคม 2562 สมาชิกเราติดภาระกิจช่วงบ่าย แต่เพื่อให้ยังคงได้สัมผัสกับหาดทรายสวยๆ น้ำทะเลใสๆ เราจึงเลือกที่พักแถวปราณบุรี ริมหาดสามร้อยยอด เป็นบ้านพัก 3 ห้องนอน ไม่มีชื่อ สามารถจัดกิจกรรม หาอาหารทะเลมาปิ้งย่างได้อย่างสบาย


การเดินทางจากเกาะพิทักษ์ใช้เวลา 4 ชั่วโมงกว่า 


คืนสุดท้ายที่เราจะนอนพักกับสมาชิก อาจจะขับรถนานหน่อย แต่ทีมงานพร้อม ทริปนี้เราเดินทางกันด้วยรถยนต์ 3 คัน กับจำนวนสมาชิกผู้ใหญ่ 6 คน เด็ก 5 คน....

แล้วผลการท่องเที่ยวเราจะเป็นอย่างไร...จะสนุก...ได้ซึมซับบรรยากาศ...ได้ภาพถ่ายสวยๆ มาแค่ไหน เดี๋ยวมีเวลาจะมาเล่าให้ทุกคนฟังกันนะครับ....



จุดหมายแรกของหนาวนี้ 2555


พวกเราไปกันมารอบนึงแล้ว แต่เป็นเดือนพฤษภาคม 2555 นี่แหละ แต่สภาพดูไม่ได้เลย ฝนตกเฉอะแฉะไปหมด ลงจากรถยังไม่ได้เลย วันนั้นเลยตัดสินใจถอยทัพก่อนดีกว่า

ก็ไม่ใช่ที่ไหนไกลหรอก จังหวัดอุทัยธานีนี้เอง ขับรถแป๊บเดียวเอง ที่นั่นก็คือ ดอยแก่นมะกรูด อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ใครเคยไปเที่ยวมามั่งยกมือด้วยก๊าบบบบ..

ดอยแก่นมะกรูด เป็นที่อยู่อาศัยของชาวกะเหรี่ยง ทั้งที่อยู่มาแต่ดั้งเดิมและบางส่วนก็อพยพมาจากพม่าหมู่บ้านกะเหรี่ยงบนดอยนี้มีรวมกันทั้งหมดสี่หมู่บ้าน เป็นชุมชนที่ตั้งประชิดแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ถือว่าเป็นสถานที่กันชนให้กับป่าอนุรักษ์

บริเวณนี้เป็น "ป่าชุมชน" หมายถึง ที่ดินหรือที่ดินป่าไม้ ที่ได้รับอนุญาตตามกฏหมายให้ดำเนินการร่วมกับพนักงานเจ้าหน้าที่ จัดการกิจการงานด้านป่าไม้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้ระเบียบข้อบังคับต่างๆ ซึ่งอาจสอดคล้องกับความเชื่อและวัฒนธรรรมของชุมชนนั้นๆ เพื่อการอนุรักษ์อย่างยั่งยืน... ภาษาชาวบ้านก็แปลว่า ชุมชนนี้ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่รัฐบาลอนุญาตให้ชาวบ้านทำการเกษตรได้ ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวดของทางการ
บนดอยนี้อากาศโดยเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 18 องศาเซนเซียส จะต่ำสุดในหน้าหนาวที่ 7 องศาเซนเซียส ดังนั้นที่นี่จึงเหมาะที่จะปลูกไม้เมืองหนาวมาก มีการส่งเสริมของทางการ ปัจจุบันชาวบ้านที่นี่จะปลูก สตรอเบอร์รี่ ต้นกาแฟ กะหล่ำปลีสีม่วง ฯลฯ เป็นสินค้าการเกษตรที่ทำรายได้ให้กับคนที่นี่อย่างเป็นกอบเป็นกำ ช่วงธันวาคม บนดอยแห่งนี้จะปลูกไม้ดอกเมืองหนาวบางชนิด เช่น ดอกลิลลี่ ต้นคริสต์มาส ทิวลิป และจะบานให้ชมจนถึงต้นเดือนมกราคม

นั่นแหละสาเหตุที่พวกเราชาว drive2camping จะต้องไปพิสูจน์ แต่ช่วงนี้ข่าววงในบอกมาว่าอย่าเพิ่งมา ฝนตกแทบทุกวัน ยังไงก็สามารถติดตามข่าวสารของที่นี่ได้ทางนี้   http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%94-%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%88-%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B5-Kaen-Makrut-Ban-Rai-Uthai-Thani/191045714262623 

สถานที่กางเต็นท์ในฤดูฝน 3


อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ

อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยเขย่งและป่าเขาช้างเผือก ในเขตท้องที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรีมีเนื้อที่ประมาณ 1,120 ตารางกิโลเมตร หรือ 700,000 ไร่

ประวัติความเป็นมา
ด้วยสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ส่งเรื่องแผนการป้องกันอนุรักษ์และพัฒนาป่าอนุรักษ์ภาคตะวันตก ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมป่าไม้เสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและการพัฒนา พิจารณาเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2534 คณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ เสนอความเห็นชอบ การคุ้มครองพื้นที่เขตแดนพม่าให้เป็นป่าผืนใหญ่ผืนเดียวกัน เพื่ออนุรักษ์ให้เป็นระบบนิเวศน์ที่มั่นคง และเป็นแหล่งทรัพยากรพันธุกรรมพืชและสัตว์ที่อุดมสมบูรณ์ของประเทศตลอดไป ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2534 ลงมติเห็นชอบตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ โดยกรมป่าไม้ได้ดำเนินการตามแผนการป้องกันอนุรักษ์และพัฒนาป่าไม้อนุรักษ์ภาคตะวันตก ในรูปแบบอุทยานแห่งชาติ

กางเต็นท์นอนป่าหน้าฝน



ในวันที่ฝนตกพรำๆ เสียงฟ้าร้องครืนๆ นกร้องจิ๊บๆ เสียงน้ำไหลจ๊อกๆ หมาจิ้งจอกหอนโฮ่งงงงงง... บรื๋อออ!! ชักจะเวอร์ไปกันใหญ่แล้ว แฮะๆ เอาเป็นว่าเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า วันนี้เรามีเทคนิคดีๆ มาฝากคนที่มีหัวใจรักในนักเดินทาง นั่นก็คือ... เทคนิคการกางเต็นท์นอนป่าหน้าฝนอย่างปลอดภัย อืม... ว่าแต่จะต้องทำยังไงและมีวิธีการแบบไหนบ้าง เราไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า...

ข้อควรรู้อย่างแรกของการกางเต็นท์หน้าฝนเลยคือ
ห้ามกางเต็นท์ใต้ต้นไม้เด็ดขาด!! แม้ว่าใต้ต้นไม้ดูเหมือนจะเป็นที่บังลมบังฝนได้ดี แต่ที่ไหนได้... ดันเป็นทำเลที่ปลอยภัยน้อยที่สุด เพราะเรื่องร้ายๆ อย่างแรกที่คุณต้องเจอเลยคือ ปัญหาน้ำฝนค้างตามกิ่งไม้ ที่จะหยดเปาะแปะๆ ใส่หลังคาเต็นท์ตอนลมพัด เปาะแปะๆ แหมะๆเสียงนี้คงรบกวนโสตประสาทของคุณน่าดู แถมยังชวนให้อารมณ์เสียอีกต่างหาก ยิ่งไปกว่านั้นตอนฝนตกหนักก็มักจะมีลมพัดแรง ดีไม่ดีกิ่งไม้แห้งอาจหักล่วงลงมาใส่เต็นท์ของคุณอีกก็ได้ (หวือ....) แต่ที่น่ากลัวมากๆ เลยคือ คุณรู้ไหมว่า... ต้นไม้สูงในที่โล่งๆ มักเป็นเป้าล่อสายฟ้า!! ขืนฟ้าผ่าขึ้นมาล่ะแย่แน่ๆ

เรามาว่ากันต่อที่เรื่องของเทคนิคการกางเต็นท์เวลาที่ฝนตกหนักโดยไม่ให้เต็นท์ด้านในเปียกกันบ้างดีกว่านะคะ... เต็นท์แม้จะเป็นอุปกรณ์ที่ไม่กลัวน้ำ เพราะเป็นไนลอน ถึงเปียกแค่ไหนก็แห้งเร็วทันใจ แต่ปัญหาก็คือ หากต้องกางเต็นท์เวลาฝนตกหนักๆ นี่สิ อาจทำให้เต็นท์เปียกไปถึงด้านในได้ (ถูก…!) เราขอแนะนำว่า ให้คลี่ฟลายชีต (ผ้าใบกันน้ำค้าง) ออกมาคลุมตัวเต็นท์ไว้ก่อน จากนั้นจึงสอดโครงเต็นท์ใต้ฟลายชีต แล้วยกตัวเต็นท์ขึ้นตั้งตามปกติ แค่นี้เต็นท์ของคุณก็ไม่เปียกโชกแล้ว

เอาล่ะคะ หลังจากกางเต็นท์ได้สำเร็จ โดยด้านในเต็นท์ไม่เปียกฝนด้วยแล้ว มุมเต็นท์ก็ถือเป็นจุด สำคัญที่เราไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมีตะเข็บเย็บหูมุมเต็นท์ที่ยื่นออกมา เป็นทางซึมเข้าของน้ำได้อย่างดี หนำซ้ำเวลาฝนตกหนัก น้ำจะระบายจากฟลายชีตลงมาตามมุมตลอดเวลา ทำให้บางทีก็ไปขังอยู่ที่กราวน์ชีต (ผ้าใบปูพื้นกันเปื้อน) และค่อยๆ ซึมเข้าไป การป้องกันไม่ให้น้ำขังที่กราวน์ชีต คือ ควรนำหินก้อนโตๆ มาวางทำเขื่อนไว้ใต้กราวน์ชีตตรงมุมเต็นท์ วิธีนี้จะช่วยยกมุมทั้งสี่ของเต็นท์ให้สูงขึ้น (เป็นการป้องกันไม่ให้น้ำซึมเข้ามา) แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการจะหวังให้มุมเต็นท์แห้งสนิท ทั้งๆ ที่ข้างนอกฝนตกหนักคงเป็นไปไม่ได้ ทางที่ดีคุณควรเตรียมผ้าไว้สำหรับซับน้ำในเต็นท์ด้วยเป็นดีที่สุด

และทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อควรรู้ง่ายๆ สำหรับผู้ที่มีหัวใจรักในการเดินทางนั่นเองนะคะ ทีนี้ก็ได้เวลาแบกกระเป๋าสะพายเป้เดินโต๋เต๋ๆ ไปเที่ยวกันได้แล้วจ้า

ข้อมูลจาก : http://guide.kapook.com/

สถานที่กางเต็นท์ในฤดูฝน 2

โป่งน้ำร้อนท่าปาย


สิ่งที่น่าสนใจ : โป่งน้ำร้อนท่าปายเป็นบ่อน้ำร้อนไหลเรื่อยๆ ทั่วเป็นบริเวณกว้าง มีบ่อใหญ่สองบ่อ นอกนั้นมีลักษณะเป็นน้ำผุด บางจุดมีความร้อนสูงประมาณ 80 องศาเซลเซียส รอบๆ โป่งน้ำร้อนเป็นต้นไม้สักที่สมบูรณ์มาก
กิจกรรม : กางเต็นท์นอนเล่นแคมป์ไฟ อาบน้ำแร่แช่ตัว ขี่จักรยานเล่น ชมธรรมชาติ สปาน้ำพุร้อน ปิคนิค

ที่อยู่ : ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ น.ด.2 อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน





สถานที่กางเต็นท์ในฤดูฝน

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว





สิ่งที่น่าสนใจ : ความแปลกตาของป่าผืนนี้คือป่าสนที่อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปี ทำให้ต้นสนที่นี่สูงลิบตา 30-40 เมตร ตระหง่านเรียงรายตัดกับผืนหญ้าเขียวขจี บนภูเขาเพชรบูรณ์ที่สลับซับซ้อน ผสมกับอากาศหนาวเย็นปกคลุมตลอดทั้งปี เย้ายวนให้นักท่องเที่ยวเร่งฝีเท้าเข้ารับความสดชื่นในป่าผืนนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก และยังมีจุดชมวิวภูค้อป่าเปลี่ยนสี ถ้ำน้ำหนาวน้ำผุด เป็นต้น




กิจกรรม : กางเต็นท์นอนเล่นแคมป์ไฟ ถ่ายรูป ชมธรรมชาติ เดินศึกษาป่า
 

ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ 67260 โทร. 0 5681 0724

 ================================

กิจกรรมดูผีเสื้อ (Butterflies Watching) - ปางสีดา

กิจกรรมดูผีเสื้อ (Butterflies Watching) ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา มีผีเสื้อหลากหลายชนิด รวมแล้วก็ประมาณ 400 ชนิด ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นเมืองผีเสื้อแห่งป่าตะวันออก จะมีผีเสื้อมากในระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม ของทุกปี สามารถดูได้ที่จุดดูผีเสื้อห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 1 กิโลเมตร ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่มีฝนตกชุกอาจพบเห็นผีเสื้อได้น้อยทั้งนี้การพบเห็นผีเสื้อขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากเป็นวันที่มีอากาศโปร่งอาจพบเห็นผีเสื้อได้เป็นจำนวนมาก
 
 
 
กิจกรรมดูผีเสื้อ ก็เป็นกิจกรรมดีๆ ที่นักเดินทาง สามารถที่จะแวะเวียนไปได้ในช่วงเดือนนี้ได้